บรรณาธิการอำนวยการ

วรงค์ หลูไพบูลย์
บรรณาธิการอำนายการ

พูดถึงตนเอง

ผมจบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แล้วก็ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตลอด อย่างไรก็ดี รู้สึกว่าชีวิตที่ผ่านมาได้รับอะไรมากมายจากหนังสือ หนัง หรือดนตรีที่เคยได้อ่าน ดู หรือฟัง เมื่อดำเนินชีวิตมาถึงจุดนึงแล้ว ก็คิดว่าอยากจะทำอะไรเพื่อตอบแทนสื่งที่ได้รับมาเหล่านี้เท่าที่พอจะเป็นไปได้บ้าง

เมื่อลองคิดประเมินดู คิดว่าตอบแทนในรูปแบบทำสำนักพิมพ์ น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ก็เลยทำสำนักพิมพ์วรรณกรรมแปลครับ

พูดถึงวรรณกรรม

ถ้า วรรณกรรม ในที่นี้หมายถึงหนังสือที่คนเค้าถือกันว่าแต่งดี ก็คงอ่านนิยายของยาขอบ ผู้ชนะสิบทิศ ครับ

ส่วนเพราะอะไรนั้น ตอนนั้นอยากรู้จักอะไรใหม่ๆ อ่านเพราะรู้สึกสนุก อยากลอง

แต่ถ้าหมายถึงหนังสือทั่วๆ ไปก็ถือเป็นวรรณกรรรมได้ คิดว่าใครๆ ก็คงได้อ่านหนังสือกันอยู่แล้ว แต่ถ้านึกว่าอ่านอะไรแล้วสนุกประทับใจเป็นอย่างแรกๆ ก็จะนึกถึงช่วงนึงตอนที่ได้อ่านนิยายกำลังภายในค่อนข้างมากครับ ซึ่งก็ด้วยเหตุผลว่าอยากลองและสนุกเช่นกัน

เข้าถึงวรรณกรรมเล่มแรก

แม้หนังสือ ผู้ชนะสิบทิศ จะถือว่าเป็นวรรณกรรมได้ หรือหลายๆ ท่านในตอนนี้ก็มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อนิยายกำลังภายในแล้ว แต่ไม่คิดว่าการอ่านตอนนั้นเป็นการ อ่าน แบบที่หลายๆ คนเข้าใจว่าคือ อ่านวรรณกรรม

ถ้าพูดถึง เข้าถึงวรรณกรรรม ในความหมายอีกแบบนึง คิดว่าเป็นช่วงที่อ่านวรรณกรรมแปลของรัสเซียครับ โดยเฉพาะเล่ม พี่น้องคารามาซอฟ เป็นการอ่านที่มีความหมายเป็นพิเศษ ทั้งความคาดหวัง ทั้งเวลาที่ให้ และสิ่งที่ได้รับจากการอ่าน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ต่างจากอ่านผู้ชนะสิบทิศและนิยายกำลังภายในตอนเด็กนะครับ

พูดถึงงานสำนักพิมพ์

จริงๆ มองตัวเองเป็นนายทุนนะครับ คือถือตัวเป็นคนลงทุนลงเงินมากกว่าคนทำงานหนังสือแบบที่เค้าให้ความหมายกัน แต่เพราะงานหลักของผมคืองานด้านคอมพิวเตอร์ ก็เลยน่าจะพูดได้ว่างานสำนักพิมพ์ก็จะมีลักษณะคล้ายงานอดิเรก

แต่ขณะเดียวกัน ก็อาจพูดได้ว่างานสำนักพิมพ์เป็นงานที่ทำแบบ ด้วยใจรักจึงมาทำ ส่วนมากก็เลยคงไม่ใช่แค่ลงเงินในแบบนักลงทุนทั่วไปครับ บางอย่างก็น่าจะทำเกินนายทุนไปเหมือนกัน ซึ่งอาจจะไม่ใช่แนวทางที่ดีนักก็ได้นะครับ

มุมอ่านหนังสือ

ที่เงียบๆ ที่สงบ ช่วงที่อ่านอะไรจริงจัง จะไปอ่านที่มหาวิทยาลัยในวันหยุด ไม่ค่อยมีคน